Final Project II

รูปทรงและที่ว่างแห่งอิริยาบท

ให้นิสิตนำผลงานจากปฎิบัติการ 6.1 มาพัฒนาสร้างเป็รูปทรงและที่ว่าง
เพื่อรองรับการใช้งานของมนุษย์หนึ่งคน สามารถใช้สอยที่ว่างภายในได้

ใช้การดึงกันตรงกลางของเฟรมเทป แสดงคุณสมบัติที่เทปสามารถรับแรงดึงได้ดี

มนุษย์สามารถเข้าไปใช้สอยเป็นเปลที่นั่ง

ถึงแม้ผลงานชิ้นสุดท้ายนี้จะไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แต่พวกเราก็ได้ศึกษาคุณสมบัติของเทปอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการ ดึง การถักเปีย การมัดรวมกัน แต่เนื่องจากคุณสมบัติที่จำกัดของเทป ทำให้เราจะเป็นต้องใช้โครง pvc เส้นจำนวนมากเกินไป แต่เราก็จะนำข้อผิดพลาดไปพัฒนาในงานต่อๆไป

Final Project I

รูปทรง และที่ว่างแห่งอิริยาบถ

เพื่อฝึกฝนกระบวนการวิเคราะห์และทดลอง ในการสร้างสรรค์รูปทรงและที่ว่าง

งานที่ต้องการ

              1.นิสิตแบ่งกลุ่มจับคู่ 2 คน
              2.นิสิตเลือกวัสดุอย่างน้อย 2 ชนิดเพื่อศึกษาและทดลองถึงคุณสมบัติ (ศักยภาพและข้อจำกัด)เพื่อจะใช้เป็นวัสดุหลัดในการสร้างรูปทรงและที่ว่าง 3 มิติ (ที่สามารถคงรูปได้) โดยใช้เทคนิควิธีการในการขึ้นรูปทรงและที่ว่าง อย่างน้อย 2 เทคนิค

วัสดุที่เลือกใช้ คือ ม้วนเทป
                คุณสมบัติของเทป คือ สมารถรับแรงดึงได้ดึมาก แต่เนื่องจากไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวมันเอง เราจึงได้นำมันมาขึงกับลวด แล้วในเทคนิคการเกี่ยวกันตรงจุดศูนย์กลาง แต่เกิดความผิดพลาดเล็กน้อย ทำให้ต้องพันทับรอยเกี่ยวกัน :(  ส่วนเหตุผลที่เลือกรูปทรงกรวยเพราะรูปทรงกรวยสามารถแสดงถึงการมีศูนย์กลางได้ดีที่สุด เมื่อมองเข้าไปจะให้ความรู้สึกดึงดูดเข้าไป

              

BACC

หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC)

ให้นิสิตไปทัศนศึกษาด้วยตัวเองมี 3 ที่ให้เลือก
1.หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC)

2.ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC)

3.พิพิธภัณฑ์วีอาร์ คิง พาวเวอร์คอมเพล็กซ์ (VR Museum)

ให้เลือกวิเคราะห์ชิ้นงานศิลปะ ผลงานออกแบบนิเทศศิลป์ หรืองานออกแบบสถาปัตยกรรมภายใน หรืองานสถาปัตยกรรม คนละ 1 ชิ้น

พื้นที่ผิวและพื้นที่ว่างสู่สัญลักษณ์ในงานจิตรกรรม ใช้เทคนิคการขูดขีดผิวบนพื้นดินสอพอง ผลงานของ ปรัชญ์ พิมานแมน สื่อถึงสถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ เพราะโดยปกติผู้คนในท้องถิ่นจะเลี้ยงนกเขาไว้เพื่อความเพลิดเพลิน แต่ภาพที่ออกมาไม่มีนกอยู่ในกรง แสดงถึงความผิดปกติ

Program 5.3

การสื่อความหมายเชิงสัญลักษณ์ / ที่ว่าง 3 มิติ / สภาพแวดล้อม

(Symbolic Meaning/ 3-Dimension / Environment)

ให้ นิสิตออกแบบที่ว่าง 3 มิติจากการนำหุ่นจำลองใบงานที่ 5.1 และ 5.2 มาพัฒนาให้สื่อถึงความลื่นไหล มีชีวิตชีวา(Flow of space) การเคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่ง(Mobility)  มีพลวัต (Dynamic) พร้อมกำหนดสภาพแวดล้อม ภายในอาคารและภูมิทัศน์รอบคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์

 เทียบสัดส่วนกับคนจริง

ตัดต่อภาพ วางในสถานที่จริง

จากการพัฒนาตั้งแต่ลูกอ๊อดมาจนถึงตัวโตเต็มไว รวมตัวกันจนได้กบตัวใหญ่ซึ่งผ่านการลดทอนรูปร่าง จนทำให้เพื่อนๆคิดว่าเป็นนกกีวี่ ><

Program 5.2

การสื่อความหมาย / รูปทรงเปิด / แสงสว่าง 

(Meaning / Open form / Lighting)

ให้นิสิตออกแบบรูปทรงเปิดเพื่อใช้สอยเป็นโคมไฟ จากการทำหุ่นจำลองใน 5.1 โดยภายในดวงโคมสามารถติดตั้งหลอดไฟขั้วเกลียวขนาดเล็ก (ชนิดแสง Warm white) จำนวน 1 หลอด และต้องออกแบบให้สามารถเปลี่ยนหลอดไฟภายในได้โดยสะดวก

จากกบที่ผ่านการลดทอนมารวมกันแบบมีศูนย์กลาง ให้ความรู้สึกว่ากบกระโดดออกมา และมีการตวัดลิ้นบางตัว ทำให้โคมไฟเหมือนโคมไฟระย้า :)

Program 5.1

รูปทรงธรรมชาติ / ความหมายและเทคนิคการสื่อความหมาย (Natural form / Meaning & Technique)

ให้นิสิตทำความเข้าใจสิ่งมีชีวิต หรือรูปทรงธรรมชาติ 1 ชนิดที่สนใจ แล้วนำมาลดทอนรูปแบบในส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมด ที่สามารถอ้างอิงคุณสมบัติ หรือเอกลักษณ์สิ่งมีชีวิตนั้น ๆ เพื่อนำไปพัฒนาเป็นผลงาน 3 มิติ ต่อไป

แสดงการกระโดดของกบ ใช้การยืดตัวของกล้ามเนื้อขา ถีบตัวให้สูงขึ้นมากพื้น

แสดงการตวัดลิ้นของกบ เพื่อจับแมลงเป็นอาหาร ซึ่งลิ้นกบจะแยกออกเป็น 2 แฉก ช่วยให้จับแมลงได้ดีขึ้น 

Program 3.2

Color & Modern Art

เพื่อให้นิสิตเข้าใจในเรื่องทฤษฎีสี การสร้างงานศิลปะยุคสมัยต่างๆ ของศิลปะสมัยใหม่ (Modern art) และสามารถสื่อความหมายเป็นงาน 2 มิติ ได้โดยมีภาพต้นแบบจากปฏิบัติการ 2

ภาพต้นแบบผลงานของ Nicholas Grimshaw
Ecological Center Project

Impressionism

Cubism

งานนี้ใช้เวลาทำนานหน่อย แต่คุ้มค่า เพราะได้ A  ^^

program 3.1

The meaning of Nature's colors

ให้นิสิตเข้าใจในเรื่องทฤษฎีสี เทคนิคน้ำหนักความสว่างของสี (Lightness-color value) 

เทคนิคการลดความสดของสี (Saturation-intensity) และโครงสี (Color Scheme)

 concept คือ พลังจากธรรมชาติ ดอกทานตะวันเปรียบเหมือนดวงอาทิตย์

ส่องแสงให้เราก้าวเดินต่อไป

ทฎษฎีโครงสีแบบเดียว

เทคนิคสี Lightness-color value

Pragram 3.3

Knowing Some Great Architect Pop Up

สร้างงาน 3 มิติ โดยการจัดองค์ประกอบของจุด เส้น ระนาบ ฝึกทักษะการใช้ และการทำงานร่วมกัน

สถาปนิก Le Corbusier

               ผลงานนี้ทำขึ้นเพื่อใช้เป็นฉากถ่ายรูปในวันรับปริญญาของพี่ๆบัณฑิต ทุกคนในกลุ่มตั้งใจทำงานกันมาก งานของกลุ่มเราจึงเป็นไปอย่างรวดเร็ว และเราก็ได้เจอกับอุปสรรคใหญ่ คือเจ้าขวดน้ำสีๆ ซึ่งมีน้ำหนักมากจนไม่สามารถวางซ้อนกันได้ เราจึงใช้เวลาแก้ตรงส่วนนี้นานมาก และงานของเราก็ได้เสร็จเป็นกลุ่มสุดท้าย ณ เวลาตี4 ด้วยความภาคภูมิใจ ><

Program 2.3

Knowing Some Great Architects III

สร้างงานทัศนศิลป์ 2 มิติ จากองค์ประกอบในความนึกคิด และองค์ประกอบที่มองเห็น โดยการจัดองค์ประกอบของจุด เส้น ระนาบ

ประเภทของรูปร่าง : เรขาคณิต (Geometric)

เทคนิคการจัดองค์ประกอบ : การแปรเปลี่ยน (Gradation)

ประเภทของรูปร่าง : เรขาคณิต (Geometric)
เทคนิคการจัดองค์ประกอบ : การขัดแย้ง (Contrast)

Program 2.2

Knowing Some Great Architect II

สร้างงานทัศนศิลป์ 2 มิติ จากองค์ประกอบนึกคิด (Concetual Elements) และองค์ประกอบที่มองเห็น (Visual Elements) โดยใช้องค์ประกอบ จุด(Dot) เส้น(Line) ระนาบ(Plane)



DOT LINE PLANE






ประเภทของรูปร่าง ; Plane
เทคนิคการจัดองค์ประกอบ  ; ความหนาแน่น(Concentration)

Program 2.1

Knowing Some Great Architect I

Nicholas Grimshaw
Ecological Center Project (1996) at St.Austell, Cornwall, England

 


DOT

LINE



PLANE





 



 

Program 01

Great Architect Pop Up

ออกแบบผลงาน 3 มิติ จากแนวคิดของ Louis Baragan

งานของ Louis Baragan จะมีความเป็นเหลี่ยมเป็นมุมอย่างชัดเจน เน้นสีสันสดใส และเพิ่มจุดเด่นด้วยการวางเก้าอี้ไม้หรือประติมากรรมเล็กๆ เช่น น้ำพุ

 และด้วยเหตุที่ Louis Baragan  เป็นคนที่ชอบม้ามาก งานที่ทำขึ้นจึงเจาะเป็นรูปม้า เมื่อผ่านแสงจะสะท้อนเงาออกมาเป็นรูปม้า


 




 



 

Profile

ชื่อ-นามสกุล ; ณิชกานต์ ลิ่มอรุณ
ชื่อเล่น ; จีจี้
รหัสนิสิต ; 5411200024
คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
สาขาวิชาภูมิสถาปัตยกรรม